พระศิวะ เป็นพระอิศวรที่ค่อนจะอยู่ในแนวของนักแสดงมากยิ่งกว่าเทวดาองค์อื่นๆบรรดาเทวดาทั้งมวล ต่างเล่าขานกันถึงอารมณ์ศิลปของพระศิวะว่า เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวไม่ซ้ำใครและไม่มีใครกันแน่ราวกับ
jumbo jili
ได้แก่ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแต่งองค์ทรงเครื่อง พระศิวะก็ไม่ค่อยจะโปรดแต่งองค์ด้วยเครื่องทรงอันหรูหรา หรูหราดุจราชาวลี
ไม่โปรดที่จะแต่งแต้มแก้วแหวนทรัพย์สิน พราวแพรวพราวแพรวจับตาดุจเทวดาจำนวนมาก พระศิวะทรงโปรดที่จะแต่งตัวปอนๆคลุมหนังสัตว์มุ่นพระผมไว้รวกๆมีงูเป็นดังสังวาลย์สาย ท่านถูกใจที่จะไปนั่งบำเพ็ญภาวนา ตามป่าช้าที่เต็มไปด้วยเงาของปิศาจพรายสารพัด
สล็อต
พระศิวะยังทรงเป็นนักแสดงแท้ๆที่ได้รับการยินยอมรับว่าทรงเป็นเจ้าของตำรับการฟ้อนรำระบำรำที่ประเทศอินเดีย ด้วยเพราะว่าทรงเป็นเทวดาที่ศิลป์การฟ้อนรำ ปางหนึ่งของพระศิวะที่แสดงถึงฐานะของท่านแจ่มชัด ก็เลยเป็นปางที่นับว่าเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายนักก็คือ ปางนาฏราช (nataraja)
ในตำนานเล่าว่า พระศิวะทรงเชิญพระนารายณ์ปลอมโฉม เป็นผัว-เมียกันไปในป่าแห่งหนึ่ง เพื่อกำราบเหล่าฤษีที่ไม่ตั้งตนบำเพ็ญตบะ และก็บูชาเทวดาอย่างที่ควรจะ ฤษีกรุ๊ปนั้นปฏิบัติตนเหลวไหล ใฝ่ไปในทางเลวมากยิ่งกว่าจะอยู่ในศีลในธรรม
สล็อตออนไลน์
เมื่ออีกทั้ง 2 พระอิศวรไปแสดงตัวในป่านั้น ในฐานะของโยคีชายหนุ่มกับเมียสาว (พระนารายณ์ทรงเลียนแบบเป็นเมียพระศิวะ) เหล่าฤษีผู้มากมายกิเลสกิเลส ก็พากันมาวนเวียน เกี้ยวพานสาวสวยเมียของโยคีชายหนุ่ม โดยไม่สนใจหรอกว่านางเป็นผู้มีคู่มีเจ้าของแล้ว บรรดาภรรยาๆของฤษี ต่างก็ไม่ปฏิบัติตนว่าไม่ไม่มีคู่แล้ว พากันมาให้ท่าให้ทางให้ท่าโยคีรูปงามกันไม่เว้นวาย
เวลาผ่านไป ก็ไม่มีฤษีผู้ใดกันแน่ปราบเมียสาวของโยคีได้ ความรักใคร่ก็เลยได้เปลี่ยนเป็นความเคืองโกรธแค้น เหล่าฤษีก็เลยพากันแช่งโยคีรวมทั้งเมียรักให้ไม่ประสบความสำเร็จ ทว่าคำแช่งนั้นหลับไม่เกิดผลอะไรก็แล้วแต่ทั้งนั้น พวกฤษีนั้นไม่บางทีอาจล่วงรู้ได้ว่า โยคีนั้นเป็นพระศิวะรวมทั้งเมียนั้นเป็นพระนารายณ์ อำนาจศักดิ์สิทธิ์มนตร์อะไรก็แล้วแต่ก็ไม่บางทีอาจรุกรานผู้เป็นเทวะได้แน่ๆ แต่ว่าด้วยความไม่รู้นั้น ก็เลยยังทำพวกฤษีเหิมเกริมถัดไป
jumboslot
พวกฤษีส่งยักษ์ชื่อมุยะละกะมาปราบ พระศิวะก็ทรงแสดงฤทธิ์เดช ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบอกยักษ์ไว้ และจากนั้นก็ทรงร่ายรำไปในท่าทางอันแปลกประหลาดยิ่งนัก บรรดาฤษีทั้งหลายแหล่ก็เลยยอมศิโรราบ กราบขออภัยต่อพระศิวะโดยดี เมื่อได้ใส่ใจว่าตนกำลังทะนงตัวกับพระอิศวรเสียแล้ว
ศิวะนาฏราช ปางสำคัญที่พระศิวะ
ผู้มีท่าทางการรำบำรำ อันงามและก็ประณีตบรรจงพิศดาร
ถือได้ว่าเป็นปางที่ทรงอิทธิพลต่อทุกๆชีวิตอย่างมากมาย
slot
ณ เทวาลัยในเมืองจิทัมพรัม ได้มีรูปพระศิวะในท่าร่ายรำต่างๆถึง 108 รูปร่วมกัน บรรดาคนที่บูชาพระศิวะชอบไปบูชาพระศิวะในเทวาลัยที่นั้นเยอะๆในแต่ละปี
อีกตำนานโบราณข้างไศวะนิกาย กล่าวไว้ว่า เมื่อพระศิวะทรงตีกลองเป็นจังหวะอันเพราะ โลกใบนี้ได้เคลื่อนไปตามจังหวะกลองนั้นด้วย รวมทั้งเมื่อพระศิวะทรงร่ายรำเคลื่อนท่านและก็พระมือพลิ้วไหวไป ก็ส่งผลให้มีขึ้นสุริยจักรวาลขึ้นในเวลานั้นเอง!! นักระบำของประเทศอินเดียต้องร่ายรำในท่าบูชาพระศิวะก่อนเสมอ แล้วจึงค่อยร่ายรำในท่าอื่นๆถัดไป
สำหรับอิริยาบถการรำอีกทั้ง 108 ท่า ของพระศิวะนั้น ล้วนเป็นท่าที่จะต้องใช้อวัยวะทุกส่วนของร่างกายมี ไม่ว่าจะเป็น แขน ขา ข้อมือ เท้า เอวกระทรวงอุตสาหกรรมบั้นท้ายหรือแม้กระทั้งกล้ามรอบดวงตา ท่าทางการฟ้อนรำแบบพระศิวะนั้นอีกทั้งงามแล้วก็น่าเคารพ