แวมไพร์

แวมไพร์ (อังกฤษ: Vampire) ผีชนิดหนึ่งตามความเชื่อของชาวยุโรป ในยุคกลาง เชื่อว่าเป็นผีดิบ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหารเพื่อหล่อเลี้ยง โดยที่แวมไพร์จะมีชีวิตเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย จะปรากฏตัวได้แต่เฉพาะเวลากลางคืน เพราะกลางวันแพ้แสงแดด แวมไพร์จะหลบซ่อนอยู่ในโลงของตนหรือในหลุมในเวลากลางวัน สามารถแปลงร่างได้หลายแบบ เช่น ค้างคาว, นกฮูก, หมาป่า, หมาจิ้งจอก, กบ, คางคก, แมลงเม่า, งูพิษ เป็นต้น สามารถกำบังกาย jumbo jili หายตัวได้ ไม่มีเงาเมื่อกระทบกับแสงหรือสะท้อนในกระจก มีแรงมากเหมือนผู้ชาย 20 คน รวมถึงสามารถบังคับสิ่งของให้เคลื่อนที่ด้วยอำนาจของตนได้ด้วย[1] สิ่งที่จะกำราบแวมไพร์ได้คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เช่น ไม้กางเขน, น้ำมนตร์ หรือแม้กระทั่งสมุนไพรกลิ่นแรงบางชนิด เช่น กระเทียม วิธีฆ่าแวมไพร์มีมากมาย เช่น ตอกลิ่มให้ทะลุหัวใจ เผา หรือ ตัดหัวด้วยจอบของสัปเหร่อ บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของมัน จะกลายเป็นแวมไพร์ไปด้วย…continue reading →

เปรต

เปรต (สันสกฤต: प्रेत เปฺรต; บาลี: peta เปต) หมายถึงผี ตามความเชื่อในหลายศาสนาทั้ง ศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดู ศาสนาซิกข์ และศาสนาเชน ตามความเชื่อนั้น เปรตเป็นผีได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสกว่าเมื่อครั้งเป็นมนุษย์มาก โดยต้องทรมานกับความหิวโหยและความเจ็บปวดทางกาย ความเชื่อเรื่องเปรตมีต้นกำเนิดมาจากพิธีกรรมทางศาสนาในประเทศอินเดียตั้งแต่ยุคโบราณ และเริ่มแพร่กระจายสู่สังคมในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก คำว่า "Preta" มักจะถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า "ผีที่หิวโหย" ความเชื่อเรื่องเปรตนั้นเริ่มต้นมาจากความเชื่อในชีวิตหลังความตาย และมักเกี่ยวข้องกับการเป็นโอปปาติกะ (ผู้ที่ผุดขึ้นเองจากอดีตกรรม มิต้องอาศัยการปฏิสนธิ) นำไปสู่ความเชื่อเรื่องเวรกรรมที่ต้องได้รับในโลกหน้าและการกลับชาติมาเกิดตามแต่ผลกรรมที่ได้กระทำเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่[1] การจะหลุดพ้นจากการเป็นเปรตนั้นต้องอาศัยเวลานานชั่วกัปชั่วกัลป์ และหากมิได้สั่งสมบุญวาสนาพอหรือไม่ได้รับการอุทิศส่วนกุศลจากคนรู้จัก บุคคลนั้นอาจต้องทุกข์ทรมานเป็นเปรตไปชั่วนิรันด์ jumbo jili การจะเกิดเป็นเปรตในโลกหน้านั้น โดยมากมักเป็นผลมาจากการก่อกรรมทำเข็ญอย่างร้ายแรงเมื่อครั้งเป็นมนุษย์[3] เช่น การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การทำร้ายผู้อื่นทั้งทางกาย วาจา และ ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ที่ถูกทำร้ายเป็นบุพการีของตนหรือเป็นพระสงฆ์ การพูดปด พูดส่อเสียด การลักทรัพย์ รวมถึงความโลภ เป็นต้น หรือแม้กระทั่งเกิดขึ้นจากการเคยเป็นสัตว์นรกที่เวียนว่ายอยู่ในนรกนานนับโกฏิปี แต่ดวงวิญญาณยังไม่บริสุทธิ์พอที่จะไปเกิดในภพภูมิที่ดีขึ้น จีงต้องชดใช้กรรมต่อ โดยจะต้องไปเกิดเป็นเปรตที่มีรูปลักษณ์ที่น่าเกลียด…continue reading →

ปินังกาลัน

ความเชื่อเกี่ยวกับกระสือกระสือเป็นผีชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่าสิงสู่อยู่ในตัวของคนเพศหญิงซึ่งโดยมากมักเป็นยายแก่ ชอบรับประทานของสดคาว มักออกหากินเวลากลางคืนและไปแต่หัวกับตับไตไส้พุง ส่วนร่างกายคงทิ้งไว้ที่บ้าน เวลาไปจะเห็นเป็นดวงไฟดวงโตมีแสงสีแดง แต่ส่วนมากจะเป็นแสงสีเขียวเรืองวาม ๆ โดยจะเริ่มออกหากินตั้งแต่เวลาหัวค่ำไปจนถึงทั้งคืน และจะกลับเข้าร่างเวลาใกล้รุ่งสาง เวลากลางวันจะมีลักษณะร่างกายเหมือนคนทั่วไป แต่มีพฤติกรรมหรืออาการแบบแปลก ๆ ผิดปกติ เช่น ไม่ชอบสบตาคน เงียบ ๆ ไม่พูดไม่จากับใคร ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว บ้างก็ไม่ชอบแสงสว่างก็มี jumbo jili กระสือเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยใดก็ยังไม่เป็นที่ทราบ ซึ่งคนในสมัยโบราณมักจะเรียกว่า "ผีลากไส้" และต่อมาก็จึงเรียกว่า "กระสือ"หรือ "ผีกระสือ" ในสมัยปัจจุบันนี้ผู้ที่เป็นกระสือนั้นมักจะเป็นผู้ที่บูชาไสยศาสตร์มนต์ดำ (เดรัจฉานวิชา) แต่ทำผิดข้อห้าม จนกลายเป็นกระสือไปในที่สุด ปกติแล้วกระสือจะไม่ทำร้ายคน ว่ากันว่าเมื่อกระสือออกหากินเวลากลางคืนแล้วเมื่อพบกับคนก็จะลอยหนีหายไป ถ้าหากคนทำให้กระสือเกิดความไม่พอใจ โกรธ กระสือจะมีความแค้น อาฆาตพยาบาท เมื่อกระสือได้ชำระแค้นกับคน ๆ นั้นแล้ว ก็อยู่ที่ว่าจะแค่บาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิตเลยใครคลอดลูกใหม่ กลิ่นสดคาวของเลือดจะชักนำให้ผีกระสือมาและกินตับไตไส้พุงของหญิงที่คลอดลูกหรือของทารกที่คลอดนั้น เหตุนี้ชาวบ้านจึงมักเอาหนามพุทราสะไว้ที่ใต้ถุนเรือนตรงที่มีร่องมีรู เพื่อป้องกันมิให้กระสือเข้ามา เชื่อกันว่ากระสือกลัวหนามเกี่ยวไส้ นอกจากของสดของคาวแล้ว กระสือยังชอบรับประทานของโสโครกเช่นอุจจาระเป็นต้น เมื่อรับประทานแล้วเห็นผ้าของใครตากทิ้งค้างคืนไว้ก็เข้าไปเช็ดปาก…continue reading →

อาหม

อาหม (อัสสัม: আহোম; อาโหมะ) หรือ ไทอาหม กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มหนึ่งซึ่งอาศัยในรัฐอัสสัมของประเทศอินเดีย เดิมใช้ภาษาอาหม ในกลุ่มภาษาย่อยไท-พายัพ ซึงเป็นภาษาในกลุ่มภาษากัม-ไท ตระกูลภาษาขร้า-ไท แต่ชาวอาหมในปัจจุบันนั้นหันไปใช้ภาษาตระกูลอินโด-ยุโรเปียนแล้ว[1] จนเมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 21 ชาวอาหมได้เกิดความสนใจในวัฒนธรรมดั้งเดิมของตน จึงเกิดความพยายามที่จะศึกษาและฟื้นฟูวัฒนธรรมดั้งเดิมมากยิ่งขึ้น[2] ชาวอาหมในปัจจุบันมีจำนวนมากกว่าชาวไทกลุ่มอื่นที่อพยพมายังอัสสัม ซึ่งในปี ค.ศ. 1990 ชาวอาหมมีจำนวนประชากรราว 2 ล้านคนในรัฐอัสสัม และรัฐอรุณาจัลประเทศ และมีชาวอัสสัมราว 8 ล้านคนที่อ้างว่ามีบรรพบุรุษหรือสืบเชื้อสายมาจากชาวอาหม[1] jumbo jili ประวัติอาณาจักรอาหมราว พ.ศ. 1763 ใกล้เคียงกับสมัยที่ตั้งอาณาจักรสุโขทัย ชาวไทพวกหนึ่ง ชื่อว่า "อาหม" ได้อพยพเข้ามาในดินแดนนี้ โดยข้ามภูเขาปาดไก่ทางเหนือของพม่า ไทพวกนี้มาจากอาณาจักรไทโบราณอาณาจักรหนึ่ง เรียกว่า "ปง" คือโมกอง (เมืองกอง) ในพม่าทางเหนือ และเริ่มประวัติศาสตร์อาหมเมื่อ พ.ศ. 1796 เมื่อเสือก่าฟ้า…continue reading →

ผีผ้าขาว

เป็นผีท้องถิ่นของจังหวัดคาโงชิมะซึ่งเป็นจังหวัดใต้สุดของเกาะคิวชู ผีตัวนี้มีตำนานเล่าว่า มันเป็นผีผ้าสีขาวที่มีความยาวถึง 10 เมตร และจะออกมาทำร้ายคนในตอนใกล้ค่ำแถวๆศาลเจ้า วิธีการที่มันเข้ามาทำร้ายก็คือ จะเข้ามารัดคอของเหยื่อแล้วก็ปิดหน้าเพื่อให้ขาดอากาศหายใจจนตายไปในที่สุด บ้างก็ว่าเคยมีคนรอดชีวิตจากการถูกผีตัวนี้มารัดคอเพราะเขาใช้ดาบสั้นมาฟันผ้าจนขาดแล้วผีหนีไปก็มี… jumbo jili อย่างไรก็ตามเรื่องผีผ้าขาวนี้มีผู้เชี่ยวชาญให้ข้อสังเกตว่า น่าจะเป็นกุศโลบายของผู้ใหญ่สมัยก่อนที่มักใช้ขู่เด็กๆที่ออกไปเล่นนอกบ้านแล้วกลับเย็นย่ำมากกว่า ทั้งนี้ เรื่องเล่าของผีผ้าขาวนี้ ในญี่ปุ่นถือว่ามีคนรู้จักเยอะมากเพราะปรากฎตัวในทีวีด้วย โดยเรื่องที่ฮิตกันมากๆ ก็คือ เรื่อง เจ้าหนูปีศาจคิทาโร่ (ゲゲゲの鬼太郎) ของอาจารย์ Shigeru Mizuki ซึ่งคิทาโร่ใช้มันเป็นพาหนะเวลาเดินทางไปไหนมาไหนนั่นเอง สล็อต .ผีนับจาน (番町皿屋敷)เป็นผีที่โด่งดังที่สุดตนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าชาวไทยก็น่าจะเคยได้ยินหรือได้เห็นตามมังงะ คือ ผีตนนี้เป็นวิญญาณของหญิงสาวที่ถูกฆ่า แล้วกลางดึกก็จะออกมานับจานซึ่งนับยังไงก็ได้แค่ 9 ใบ (จริงๆมี 10 ใบแต่ทำแตก วิญญาณก็เลยไม่สงบ) แล้วก็จะส่งเสียงโหยหวนหลอกผู้คนให่ได้ยินกันเป็นประจำ โดยผีนับจานนี้ว่ากันว่ามีมาตั้งแต่สมัยเอโดะเลยทีเดียว สล็อตออนไลน์ ผีนับจานนั้น อันที่จริงมีหลากหลายพื้นที่ในญี่ปุ่นและแต่ละเรื่องเล่าก็มักจะมีสิ่งที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นนั้น แต่โดยทั่วไปก็จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวละครหลักๆคือ สาวใช้ ซามูไร หรือตัวโกง แล้วฉากของเรื่องราวมักเป็นปราสาทหรือบ้านขุนนางที่ร่ำรวย และมักกล่าวถึงบ่อน้ำที่วิญญาณออกมาปรากฎตัวครับ สำหรับเนื้อเรื่องโดยละเอียด…continue reading →

ปีศาจคอยาว

ถ้ามองผ่านๆ ปีศาจตนนี้ก็จะเหมือนหญิงสาวทั่วไป แต่ตกดึกร่างที่ดูธรรมด๊าธรรมดาก็สามารถยืดคอออกมาได้เรื่อยๆ บางตำนานถึงขนาดบอกว่า ปีศาจคอยาวนั้น มีสองประเภทหลักๆ ก็คือ แบบที่คอยังติดกับร่างกาย (แต่ยืดได้ยาวมาก) จะเรียกว่า Rokurokubi ส่วนอีกแบบคือ ถอดหัวได้เลย เรียกว่า Nukekubi แล้วหัวที่ลอยไปลอยมานี้ก็ไม่ได้ลอยเปล่าๆนะ หัวนี้อาจจะไปกัดเหยื่อเคราะห์ร้ายแล้วก็ดื่มเลือดด้วย….(นึกถึงละครไทยสมัยเก่าเรื่องศรีษะมารสุดๆ) jumbo jili อย่างไรก็ตาม มีวิธีปราบปีศาจตัวนี้แบบง่ายๆ นั่นคือ หากสืบได้ว่าใครเป็นเจ้าของร่างของผีตนนี้แล้ว ก็ให้คนปราบผีลอบสังเกตการณ์จนกระทั่งปีศาจนั้นถอดหัวออกจากร่างไปก่อน จากนั้นก็ให้รีบทำการเคลื่อนย้ายร่างของปีศาจไปซ่อนไว้ หากกลับมาแล้วหัวหาร่างไม่เจอก็จะอ่อนแอไปเองแล้วก็หมดฤิทธิ์ไปในที่สุด สล็อต ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีผีที่มีลักษณะคล้ายๆกันอยู่ด้วย กล่าวคือจะเป็นปีศาจที่ถอดหัวแล้วไปทำร้ายคนได้ หนึ่งในนั้นก็คือ ผีกระสือ ของไทย นอกจากนี้ก็มี Leyak จากอินโดนีเซีย Penanggalan จากมาเลเซียด้วยล่ะครับ สล็อตออนไลน์ ปีศาจเฒ่าทารก (子泣き爺)เป็นปีศาจที่มีเรื่องเล่าจากจังหวัดโทคุชิมะ เกาะชิโกกุ โดยปีศาจตนนี้แม้ชื่อตรงตัวจะแปลได้ว่า ตาแก่ขี้แง แต่ในตำนานก็บอกว่าปีศาจตัวนี้สามารถแปลงกายเป็นได้ทั้งคนแก่หรือเด็กทารก บ้างก็ว่ามีรูปร่างเป็นเด็กทารกแต่หน้าตาเป็นคนแก่ก็มี jumboslot ปีศาจเฒ่าทารกที่คนญี่ปุ่นมักนึกถึงก็จะมาจากการ์ตูนเรื่อง เจ้าหนูปีศาจคิทาโร่ (ゲゲゲの鬼太郎) ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมของเจ้าหนูคิทาโร่และช่วยเหลือเขาในการปราบปีศาจที่เป็นฝ่ายร้ายอยู่บ่อยครั้ง…continue reading →

เจ้าหญิงหิมะ

เจ้าหญิงหิมะเป็นอีกหนึ่งปีศาจที่คนญี่ปุ่นรู้จักดีเพราะหลายครั้งได้ไปปรากฎอยู่ในตำนานพื้นบ้านหรือแม้กระทั่งการ์ตูนหลายเรื่อง รวมทั้งวรรณกรรมญี่ปุ่นหรือแม้กระทั่งคนวาดเล่นหรือทำ animation กันแบบสวยๆก็มีเยอะแยะเช่นกัน โดยตำนานเรื่องนี้มีการกล่าวถึงตั้งแต่ในสมัยมุโรมาจิหรือเกือบๆ 700 ปีก่อนเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เรื่องเจ้าหญิง jumbo jili หิมะนี้แต่ละท้องถิ่นก็จะมี story ที่แตกต่างกันออกไป บางเรื่องก็โหดๆ เช่น แค่จ้องเธอก็อาจถูกฆ่าตาย บ้างก็ว่าเธอชอบลักพาตัวเด็กไป บางเรื่องก็จะซ่อนตัวอยู่ในพายุหิมะแล้วคอยหลอกคนที่ติดอยู่บนพายุหิมะเพื่อจับกินเป็นอาหาร ฯลฯ เนื่องจากมันมีหลายเวอร์ชั่นมาก ผมจึงขอยกตัวอย่างเวอร์ชั่นที่เป็นงานเขียนของ Lafcadio Hearn ซึ่งเป็นฝรั่งชาวกรีกและได้ย้ายไปตั้งรกราก+แต่งงานกับคนญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 19 (หนังสือเรื่องผีญี่ปุ่นที่เขาเขียนนี้ มีสำนักพิมพ์ในไทยเคยนำมาตีพิมพ์แล้วด้วยครับ) สล็อต เวอร์ชั่นนี้ผู้เขียนอ้างอิงจากเรื่องเล่าขานกันในแถบจังหวัดนีงาตะ โทยาม่า และนากาโน่ คือ ในคืนหนึ่งกลางพายุหิมะอันแสนเหน็บหนาว หนุ่มชาวป่าคนหนึ่งหลงทางกลางหิมะและเขารู้ตัวว่ากำลังจะตาย จู่ๆก็มีหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่งมานำทางและพาเขาไปหลบหนาวที่บ้านของเธอ พอฟื้นตัวแล้วก่อนที่ชายหนุ่มจะลากลับบ้านของตน หญิงสาวคนนั้นก็บอกว่าห้ามพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้กับใครทั้งสิ้น มิเช่นนั้นจะเกิดเรื่องร้ายขึ้น…หนุ่มชาวป่ารับคำแล้วก็แยกย้ายกันไป ในเวลาต่อมาหนุ่มคนนี้ได้พบรักกับสาวสวยคนหนึ่งและแต่งงานมีลูกด้วยกัน ทว่าหญิงคนนี้หน้าตาเหมือนกับผู้ที่ช่วยชีวิตเขาไว้เมื่อหลายปีก่อนจนทำให้ตัวชายหนุ่มได้แต่เก็บ สล็อตออนไลน์ คำถามไว้ในใจ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ทนไม่ได้จึงเล่าให้ภรรยาของตนฟังว่าเธอช่างหน้าตาเหมือนผู้หญิงที่เคยช่วยชีวิตตนเมื่อหลายปีก่อนมากๆ ฉับพลันนั้นเอง หญิงสาวผู้เป็นภรรยาก็แปลงกายเป็นปีศาจหิมะด้วยความเกรี้ยวกราดและกล่าวว่าชายหนุ่มไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้จึงจะฆ่าเขาให้ตายเสีย แต่เห็นแก่ที่ลูกยังเล็กจึงกำชับว่าหากลูกของเธอเป็นอะไรขึ้นมา ชายหนุ่มจะต้องพบกับความหายนะ ดังนั้นต้องเลี้ยงดูบุตรให้ดี ชายหนุ่มตกใจและรับคำด้วยความกลัว…continue reading →

​กัปปะ (河童)

กัปปะ (河童)เป็นอีกหนึ่งปีศาจที่มีชื่อเสียงมากๆของญี่ปุ่น ลักษณะของมันแบบคลาสสิกที่เรารู้จักกันดีก็คือ มีร่างเป็นครึ่งคนครึ่งเต่าและมีจานกลมบนหัว ด้านบนนั้นจะมีน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดเวลา ตัวกัปปะอาศัยอยู่ในแม่น้ำลำคลอง แต่สามารถขึ้นมาบนบกได้เช่นกัน เรื่องของกัปปะนั้นมีตำนานมากมายและกล่าวถึงพฤติกรรมของมันว่ามีตั้งแต่คอยระรานชาวบ้านแบบทั่วไป เช่น ถ้ำมองผู้หญิงที่ใส่กิโมโนจากในน้ำ ไปจนถึงเรื่องชั่วๆอย่างเช่น ลักพาตัวเด็กๆ จับคนหรือสัตว์ที่ลงมาว่ายน้ำให้จมน้ำตาย ข่มขืนสาวๆ หรือแม้กระทั่งกินเนื้อคนด้วย jumbo jili ฟังดูแล้วเหมือนกัปปะนี่ก็เป็นปีศาจที่ "โคตรชั่ว" อีกตัวหนึ่งใช่ไหมครับ แต่ก็มีบางตำนานที่บอกว่ากัปปะเองเป็นปีศาจที่สามารถเป็นเพื่อนกับมนุษย์ได้ด้วย รวมทั้งวันดีคืนก็แปลงร่างมาเล่นซูโม่กับเด็กๆก็มี อย่างไรก็ดี มีการกล่าวไว้ว่า หากต้องสู้กับกัปปะแล้วล่ะก็ ห้ามสู้ในน้ำเด็ดขาดเพราะโอกาสแพ้สูงมาก ส่วนการต่อสู้บนบก หากทำให้น้ำที่อยู่ใน สล็อต จานบนหัวของกัปปะหกได้ กัปปะจะอ่อนแอมากๆและพ่ายแพ้ได้ง่าย เรื่องนี้บางตำรามีเขียนเพิ่มเติมไว้ด้วยว่า หากใครได้เจอกัปปะแบบตัวต่อตัวให้รีบชิงลงมือโค้งทักทายก่อน กัปปะซึ่งเป็นปีศาจที่มีมารยาทดีก็จะโค้งตอบแล้วจะทำให้น้ำบนจานไหลลงมา จังหวะนี้ก็ให้เรารีบหนีมันไปก็มีเช่นกัน กัปปะมีอิทธิพลในญี่ปุ่นพอสมควร ทั้งการปรากฏตัวในการ์ตูน ภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งวงการอาหาร! เรื่องอาหารนี่เห็นชัดๆและฝรั่งหลายคนก็ชอบกิน นั่นคือ ข้าวห่อสาหร่าย สล็อตออนไลน์ ไส้แตงกวา ซึ่งมีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า Kappa-maki ซึ่งที่มาของเมนูนี้ก็ง่ายมากๆ เพราะอาหารโปรดของกัปปะก็คือ แตงกวา ก็เลยตั้งชื่อให้แบบง่ายๆยังงี้นั่นเองครับ!…continue reading →